วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

พระราชวังโปตาลา

         พระราชวังโปตาลา ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลาซาบนเขาแดง คำว่า “โปตาลา” มาจากภาษาอินเดียโบราณหมายถึง “ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม” พระราชวังโปตาลา สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าซองเซน กัมโป กษัตริย์องค์ที่ 32 แห่งราชวงศ์ถู่ฟาน โดยมีชื่อว่า “พระราชวังแดง” ต่อมาราชวงศ์ถู่ฟานล่มสลาย พระราชวังแห่งนี้จึงถูกทิ้งให้รกร้างทรุดโทรมลง จวบจนเมื่อศตวรรษที่17 องค์ทะไลลามะที่ 5 ได้ทำการซ่อมแซมพระราชวังแดงแห่งนี้เสียใหม่ เพื่อใช้เป็นสถานที่ว่าราชการและที่ประทับ แล้วเปลี่ยนคำเรียกมาเป็น “พระราชวังโปตะลา” นับจากนั้น สถานที่แห่งนี้ก็ได้กลายเป็นศูนย์รวมอำนาจทางการเมืองและศาสนาของทิเบตในเวลาต่อมา




      พระราชวังโปตาลาเป็นหมู่สถาปัตยกรรมขนาดใหญ่โตโอฬาร สร้างขึ้นตามลักษณะภูมิประเทศที่เป็นขุนเขา กินเนื้อที่กว่า 360,000 ตารางเมตร เป็นอาคาร 13 ชั้น สูง 117 เมตร มีลักษณะเหมือนป้อมปราการแบบทิเบต เป็นการผสมผสานศิลปะทางสถาปัตยกรรมของทิเบตและจีนโบราณ โดยได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกราตรีแห่งหลังคาโลก”


สิ่งปลูกสร้างที่สำคัญของพระราชวังโปตาลา    

         สิ่งปลูกสร้างที่สำคัญของพระราชวังโปตาลาได้แก่ วังขาวและวังแดง รวมถึงสิ่งปลูกสร้างบริเวณเชิงเขาในละแวกใกล้เคียง “วังขาว” สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1648 เป็นสถานที่ซึ่งองค์ทะไลลามะใช้ในการดูแลบริหารบ้านเมืองและพระศาสนา เป็นอาคารสูง 7 ชั้น หันหน้าไปยังทิศใต้ ส่วน “วังแดง” ตั้งอยู่ตอนกลางพระราชวังโปตาลา สิ่งปลูกสร้างหลักสร้างเสร็จใน ค.ศ. 1964 แบ่งออกเป็น 6 ชั้น เป็นที่ประดิษฐานองค์สถูปของทะไลลามะ และเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา นอกจากนี้ โดยรอบของพระราชวังโปตาลายังประกอบไปด้วย โรงเรียนสอนศาสนา กุฏิพระ และห้องหับต่าง ๆ ทางข้างตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ ยังมีเขตเมืองเก่า เทศบาลท้องถิ่น โรงพิมพ์พระคัมภีร์ จำเรือน โรงม้า อุทยานของวัง และสระน้ำหลงหวาง เป็นต้น




       จากองค์ทะไลลามะที่ 5 เป็นต้นมา พระราชวังโปตาลามีสถานะเป็นพระราชวังฤดูหนาวขององค์ทะไลลามะ และเป็นที่ประกอบกิจกรรมทางการเมืองการปกครอง และศาสนากิจมาโดยตลอด ถือเป็นศูนย์กลางอำนาจทั้งในทางอาณาจักรและศาสนจักรของทิเบต พระราชวังโปตะลายิ่งใหญ่โอฬาร เป็นหมู่สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ เป็นผลงานทางด้านวัฒนธรรม ศิลปะ และศาสนาของชนชาติทิเบต ฮั่น และมองโกเลีย จนถึงทุกวันนี้ พระราชวังโปตาลาเป็นสัญลักษณ์แห่งชนชาติทิเบตที่ได้รับความยอมรับจากทั่วโลกด้วยรูปลักษณ์สง่างามและความศักดิ์สิทธิ์ทางด้านพุทศาสนานิกายลามะ





ข้อมูลจาก : http://thai.chinese.cn


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น